ฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหามลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง โดยมาตรฐานคุณภาพอากาศกำหนดค่าเฉลี่ยไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐานจะส่งผลกระทบโดยเฉพาะต่อกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็กที่มีระบบทางเดินหายใจและภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
สาเหตุของฝุ่น PM 2.5 มาจากสภาวะโลกร้อน การเผาป่า ควันรถยนต์ การเผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง รวมทั้งสภาพอากาศนิ่งที่ทำให้ฝุ่นสะสมไม่กระจายตัว ฝุ่นขนาดเล็กเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอ จาม หายใจลำบาก ระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา เกิดอาการคัน และหากเข้าสู่กระแสเลือดอาจทำให้เกิดพังผืดในปอดได้
การป้องกันดูแลตนเองที่ดีที่สุด คือ สวมหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้านผ่านแอปพลิเคชันของกรมควบคุมมลพิษและจิสด้า ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในอาคารบ้านเรือน และหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่ค่าฝุ่นสูง ส่วนการป้องกันในระดับนโยบาย ประเทศไทยมี พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (พ.ร.บ.อากาศ) เป็นกฎหมายหลักในการควบคุมมลพิษทางอากาศ แต่จำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเคร่งครัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดแหล่งกำเนิดมลพิษและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว
สอดคล้องกับ SDGs 3 (Good Health and Well-being) สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การส่งเสริมสุขภาพและการให้ความรู้ (Health promotion and education) ในด้านของการส่งเสริมสุขภาพและการให้ความรู้ให้แก่นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัย
ธนกร สายบัวทอง
ผู้สรุปรายงาน









